วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

เทอร์โมพลาสติก

เทอร์โมพลาสติก

เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) หรือเรซิน เป็นพลาสติกที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด มีสมบัติพิเศษคือ เมื่อหลอมแล้วสามารถนำมาขึ้นรูปกลับมาใช้ใหม่ได้ ชนิดของพลาสติกใน ตระกูลเทอร์โมพลาสติก ได้แก่
โพลิเอทิลีน (Polyethylene: PE) เป็นพลาสติกที่ไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย แต่อากาศผ่านเข้าออกได้ มีลักษณะขุ่นและทนความร้อนได้พอควร เป็นพลาสติกที่นำมาใช้มากที่สุดในอุตสาหกรรม เช่น ท่อน้ำ ถัง ถุง ขวด แท่นรองรับสินค้า
โพลิโพรพิลีน (Polypropylene: PP) เป็นพลาสติกที่ไอน้ำซึมผ่านได้เล็กน้อย แข็งกว่าโพลิเอทิลีนทนต่อสารไขมันและความร้อนสูงใช้ทำแผ่นพลาสติถุงพลาสติกบรรจุอาหารที่ทนร้อน หลอดดูดพลาสติก เป็นต้น
โพลิสไตรีน (Polystyrene: PS) มีลักษณะโปร่งใส เปราะ ทนต่อกรดและด่าง ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอควร ใช้ทำชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น
SAN (styrene-acrylonitrile) เป็นพลาสติกโปร่งใส ใช้ผลิตชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น
ABS (acrylonitrile-butadiene-styrene) สมบัติคล้ายโพลิสไตรีน แต่ทนสารเคมีดีกว่า เหนียวกว่า โปร่งแสง ใช้ผลิตถ้วย ถาด เป็นต้น
โพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride: PVC) ไอน้ำและอากาศซึมผ่านได้พอควร แต่ป้องกันไขมันได้ดีมีลักษณะใส ใช้ทำขวดบรรจุน้ำมันและไขมันปรุงอาหาร ขวดบรรจุเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ เบียร์ ใช้ทำแผ่นพลาสติก ห่อเนยแข็ง ทำแผ่นแลมิเนตชั้นในของถุงพลาสติก
ไนลอน (Nylon) เป็นพลาสติกที่มีความเหนียวมาก คงทนต่อการเพิ่มอุณหภูมิ ทำแผ่นแลมิเนตสำหรับทำถุงพลาสติกบรรจุอาหารแบบสุญญากาศ
โพลิเอทิลีน เทอร์ฟะธาเลต (Terylene: polyethylene terephthalate) เหนียวมากโปร่งใส ราคาแพง ใช้ทำแผ่นฟิล์มบาง ๆ บรรจุอาหาร
โพลิคาร์บอเนต (Polycarbonate: PC) มีลักษณะโปร่งใส แข็ง ทนแรงยึดและแรงกระแทกได้ดี ทนความร้อนสูง ทนกรด แต่ไม่ทนด่าง เป็นรอยหรือคราบอาหาร จับยาก ใช้ทำถ้วย จาน ชาม ขวดนมเด็ก และขวดบรรจุอาหารเด็ก

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กรรมวิธีของการสกัดหรือผลิตนน้ำมันจากหินน้ำมัน
เริ่มต้นด้วยการเปิดผิวดิน เพื่อขุดตักเอาหินน้ำมันออกมาบดให้ได้ขนาด แล้วป้อนไปยังโรงงาน ผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนรูปของสารเคอโรเจนให้กลายเป็นไอของไฮโดร์คาร์บอน ไอของไฮโดรคาร์บอนนี้ก็จะถูกแยกออกไป ทำให้กลายเป็นของเหลว และนำเอาของเหลวที่ได้นำไปทำการกลั่น ณ โรงกลั่นต่อไป
กรรมวิธีของการสกัดหรือผลิตน้ำมันจากหินน้ำมัน เริ่มต้นด้วยการเปิดผิวดิน เพื่อขุดตักเอาหิน น้ำมันออกมาบดให้ได้ขนาด แล้วป้อนไปยังโรงงาน ผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนรูปของ สารคีโรเจนให้กลายเป็นไอของไฮโดร์คาร์บอน ไอของไฮโดรคาร์บอนนี้ก็จะถูกแยกออกไป ทำให้กลายเป็นของเหลว และนำเอาของเหลวที่ได้นำไปทำการกลั่น ณ โรงกลั่นต่อไปจาก กรรมวิธีดังกล่าว จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมการสกัดน้ำมันจากหินน้ำมัน จะก่อให้เกิดปัญหา สภาพมลภาวะตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของฝุ่นละอองที่ปลิวขึ้นไปสู่บรรยากาศ และการทิ้งกากหินน้ำมันที่ผ่านกรรมวิธีแล้ว


วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553